การแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อฮาร์ดไดร์ภายนอกที่ไม่ทำงานนั้นเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ ในการแก้ไขปัญหานี้ เราแนะนำให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:
- ตรวจสอบการเชื่อมต่อฮาร์ดไดร์ภายนอก: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายสัญญาณและสายไฟถูกต่อให้ถูกต้องและแน่นอน ดูว่าสายสัญญาณของฮาร์ดไดร์ภายนอกถูกเสียบเข้ากับพอร์ตของคอมพิวเตอร์อย่างถูกต้อง
- ตรวจสอบการติดตั้งไดร์เวอร์: เปิดตัวจัดการอุปกรณ์ของคุณและตรวจสอบให้แน่ใจว่าไดร์เวอร์สำหรับฮาร์ดไดร์ภายนอกถูกติดตั้งและอัปเดตล่าสุด
- ทดสอบด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์อื่น: ลองเชื่อมต่อฮาร์ดไดร์ภายนอกกับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นเพื่อดูว่าปัญหาเกิดจากเครื่องคอมพิวเตอร์หรือไม่
- ตรวจสอบการใช้งานซอฟต์แวร์: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณใช้ซอฟต์แวร์ที่เข้ากันได้กับฮาร์ดไดร์ภายนอก แต่ถ้าไม่ใช่ ลองติดตั้งซอฟต์แวร์ที่เข้ากันได้กับฮาร์ดไดร์ภายนอกของคุณ
อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลยอดนิยม
[content-egg-block modules=AmazonNoApi template=offers_grid cols=3 groups=”SectionIntro”]
ตรวจสอบการเชื่อมต่อฮาร์ดไดร์และสายเชื่อมต่อ
เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานได้อย่างถูกต้อง จำเป็นต้องตรวจสอบการเชื่อมต่อฮาร์ดไดร์และสายเชื่อมต่อให้เข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างถูกต้องและไม่มีการหักหรือเสียสัญญาณ
- ตรวจสอบการเชื่อมต่อฮาร์ดไดร์ภายนอก:
- ให้ตรวจสอบว่าสายสัญญาณของฮาร์ดไดร์ถูกเสียบเข้ากับพอร์ตที่ถูกต้องบนเมนบอร์ดของเครื่องคอมพิวเตอร์
- ตรวจสอบว่าสายไฟฟ้าของฮาร์ดไดร์ถูกเสียบเข้ากับแหล่งจ่ายไฟภายนอกและสายไฟภายในเครื่องคอมพิวเตอร์โดยถูกต้อง
- ตรวจสอบสายเชื่อมต่อ:
- ตรวจสอบว่าสายเชื่อมต่อระหว่างฮาร์ดไดร์และเมนบอร์ดไม่มีการหักหรือชำรุด
- ตรวจสอบว่าสายเชื่อมต่อมีการเสียสัญญาณหรือไม่ โดยใช้อุปกรณ์ทดสอบสัญญาณเช่น multimeter เพื่อตรวจสอบค่าความต้านทานหรือสัญญาณที่เกิดจากสายเชื่อมต่อ
ถ้าพบว่าการเชื่อมต่อฮาร์ดไดร์หรือสายเชื่อมต่อไม่ถูกต้องหรือมีปัญหา ควรแก้ไขโดยตรวจสอบการเสียบเชื่อมใหม่หรือแทนที่สายเชื่อมต่อที่ชำรุดด้วยสายเชื่อมต่อใหม่ที่ใช้งานได้อย่างถูกต้องและมีคุณภาพสูง
[content-egg-block modules=AmazonNoApi template=offers_grid cols=3 groups=”Step1″]
ตรวจสอบการเชื่อมต่อ USB
- เชื่อมต่อฮาร์ดไดร์ภายนอกผ่านพอร์ต USB ให้แน่ใจว่าการเชื่อมต่อถูกต้องและเข้ากันได้
- ตรวจสอบว่าสาย USB ที่ใช้เชื่อมต่อไม่ชำรุดหรือแตกต่างจากมาตรฐาน
- ตรวจสอบว่าพอร์ต USB ที่ใช้เชื่อมต่อไม่มีคราสหรือสนิทภายใน
- ตรวจสอบว่าฮาร์ดไดร์ภายนอกที่เชื่อมต่อถูกต้องและพร้อมใช้งาน
หากตรวจสอบแล้วพบปัญหาใด ๆ ให้แจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อแก้ไขให้ทันที
ตรวจสอบการทำงานของฮาร์ดไดร์
เมื่อต้องการตรวจสอบการทำงานของฮาร์ดไดร์ ท่านสามารถทำได้โดยการเปิดตัวฮาร์ดไดร์และตรวจสอบว่ามีเสียงหรือไฟ LED ที่แสดงถึงการทำงานของฮาร์ดไดร์หรือไม่ ตัวอย่างเช่น หากฮาร์ดไดร์ทำงานปกติ ท่านจะได้ยินเสียงหมุนของฮาร์ดไดร์และเห็นไฟ LED ที่ติดขึ้น แต่ถ้าไม่มีการแสดงสัญญาณใด ๆ อาจมีปัญหาในฮาร์ดไดร์ เช่น อาจเกิดข้อผิดพลาดในการเชื่อมต่อหรือฮาร์ดไดร์อาจชำรุดไปแล้ว
[content-egg-block modules=AmazonNoApi template=offers_grid cols=3 groups=”Step3″]
ตรวจสอบการทำงานของไดร์ฟเวอร์
เพื่อตรวจสอบว่าไดร์ฟเวอร์ของฮาร์ดไดร์ภายนอกทำงานอย่างถูกต้องให้เราทำการเปิดตัว Device Manager โดยการคลิกขวาที่ปุ่ม “เริ่ม” บนแถบงาน แล้วเลือก “Device Manager” จากเมนูที่แสดงขึ้น หากพบสัญลักษณ์เครื่องหมายคำถามหรือเครื่องหมายสีแดง อาจจะต้องอัปเดตไดร์เวอร์โดยการคลิกขวาที่อุปกรณ์ที่ต้องการอัปเดตแล้วเลือก “Update driver” จากนั้นเลือก “Search automatically for updated driver software” เพื่อให้ระบบค้นหาและอัปเดตไดร์เวอร์ให้เราโดยอัตโนมัติ
ทดสอบฮาร์ดไดร์บนเครื่องคอมพิวเตอร์อื่น
- เมื่อพบปัญหาในการทำงานของฮาร์ดไดร์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ อย่างเช่นการเข้าถึงข้อมูลช้าหรือไม่สามารถเข้าถึงได้เลย ให้ลองเชื่อมต่อฮาร์ดไดร์ภายนอกกับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่น ๆ เพื่อตรวจสอบว่าปัญหาเกิดจากฮาร์ดไดร์หรือไม่
- เริ่มต้นด้วยการเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่ จากนั้นเชื่อมต่อฮาร์ดไดร์ภายนอกที่ถูกต้องกับพอร์ต USB หรือพอร์ตอื่น ๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร์อื่น ๆ
- เมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์แสดงการติดตั้งฮาร์ดไดร์ใหม่ ให้ทดสอบการเข้าถึงข้อมูลจากฮาร์ดไดร์ภายนอก โดยเปิดไฟล์หรือโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับฮาร์ดไดร์และตรวจสอบว่าสามารถเข้าถึงได้อย่างถูกต้องหรือไม่
- หากฮาร์ดไดร์ภายนอกทำงานได้ถูกต้องบนเครื่องคอมพิวเตอร์อื่น ๆ แสดงว่าปัญหาอาจเกิดจากฮาร์ดไดร์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ปัจจุบัน ในกรณีนี้ คุณอาจต้องพิจารณาใช้ซอฟต์แวร์ถูกต้องหรือวัสดุสิ้นเปลืองในการแก้ไขปัญหา
ตัวอย่าง:
- เช่น หากคุณพบว่าฮาร์ดไดร์ภายนอกทำงานได้ปกติบนเครื่องคอมพิวเตอร์อื่น ๆ แต่ไม่สามารถเข้าถึงได้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ปัจจุบัน อาจเกิดปัญหาจากสายสัญญาณหรือพอร์ต USB บนเครื่องคอมพิวเตอร์ปัจจุบันที่มีปัญหา
- หากเมื่อเชื่อมต่อฮาร์ดไดร์ภายนอกกับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่น ๆ แล้วยังไม่สามารถเข้าถึงได้ อาจจะมีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับฮาร์ดไดร์เอง ในกรณีนี้ คุณอาจต้องพิจารณาใช้ฮาร์ดไดร์อื่นหรือติดต่อผู้ผลิตเพื่อขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม
[content-egg-block modules=AmazonNoApi template=offers_grid cols=3 groups=”Step5″]
ใช้โปรแกรมตรวจสอบฮาร์ดไดร์
ใช้โปรแกรมตรวจสอบฮาร์ดไดร์เพื่อตรวจสอบว่ามีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับฮาร์ดไดร์หรือไม่ โดยเริ่มต้นให้เปิดโปรแกรมตรวจสอบฮาร์ดไดร์ แล้วเลือกที่ฮาร์ดไดร์ที่ต้องการตรวจสอบ และกดปุ่ม “สแกน” เพื่อเริ่มตรวจสอบปัญหาที่เกี่ยวข้องกับฮาร์ดไดร์ รอให้โปรแกรมทำการสแกนเสร็จสิ้น แล้วตรวจสอบผลลัพธ์ที่แสดงบนหน้าจอเพื่อดูว่ามีปัญหาหรือไม่
ติดต่อศูนย์บริการ
หากไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเอง โปรดติดต่อศูนย์บริการของผู้ผลิตฮาร์ดไดร์ภายนอกเพื่อขอความช่วยเหลือมืออาชีพ ท่านสามารถใช้หมายเลขโทรศัพท์หรืออีเมลของศูนย์บริการเพื่อติดต่อเข้าสู่ระบบ กรุณาระบุรายละเอียดของปัญหาอย่างชัดเจนเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถให้คำแนะนำหรือช่วยแก้ไขปัญหาให้ได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ถ้าเป็นไปได้โปรดเตรียมข้อมูลหมายเลขซีเรียลหรือรุ่นของฮาร์ดไดร์ที่เกี่ยวข้องไว้เพื่อความสะดวกในการช่วยเหลือ
สำรองข้อมูลและเตรียมความพร้อม
สำรองข้อมูลที่อยู่บนฮาร์ดไดร์ภายนอกและเตรียมความพร้อมสำหรับการดำเนินการซ่อมแซมหรือแทนที่ฮาร์ดไดร์เก่า
- สำรองข้อมูล: เมื่อเจอปัญหาที่ฮาร์ดไดร์เก่าหรือต้องการทำการซ่อมแซม อย่าลืมสำรองข้อมูลที่อยู่บนฮาร์ดไดร์ภายนอกก่อนที่จะเริ่มดำเนินการ วิธีการทำคือการคัดลอกข้อมูลจากฮาร์ดไดร์เก่ามาเก็บไว้ที่อุปกรณ์สำรองข้อมูลอื่น เช่น ฮาร์ดไดร์ภายนอก, คีย์ USB, หรือบริการบนคลาวด์
- เตรียมความพร้อมสำหรับการซ่อมแซมหรือแทนที่: เมื่อเตรียมสำรองข้อมูลเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถดำเนินการซ่อมแซมหรือแทนที่ฮาร์ดไดร์เก่าโดยดำเนินตามขั้นตอนดังนี้:
- ลองเชื่อมต่อฮาร์ดไดร์เก่ากับเครื่องคอมพิวเตอร์อีกครั้ง หากยังไม่ทำงาน ลองใช้สายเชื่อมต่ออื่นหรือพอร์ต USB ที่แตกต่างกัน
- ลองเปลี่ยนสายเชื่อมต่อฮาร์ดไดร์เก่า
- หากยังไม่สามารถใช้งานได้ ลองเปลี่ยนพอร์ต USB ในเครื่องคอมพิวเตอร์
- หากยังไม่ทำงาน ลองเชื่อมต่อฮาร์ดไดร์เก่ากับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่น หากยังไม่สามารถใช้งานได้ อาจจะเกิดปัญหาจากฮาร์ดไดร์เก่าตัวเอง คุณอาจต้องพิจารณาแทนที่ฮาร์ดไดร์ใหม่
ตัวอย่าง:
- คู่มือการสำรองข้อมูลและเตรียมความพร้อมสำหรับการดำเนินการซ่อมแซมหรือแทนที่ฮาร์ดไดร์เก่า
- วิธีการสำรองข้อมูลจากฮาร์ดไดร์เก่าให้ถูกต้อง
สรุปผลการแก้ไขปัญหา
ด้วยการศึกษาและทดลองตามวิธีการที่กล่าวถึงในบทความนี้เราพบว่าการแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อฮาร์ดไดร์ภายนอกที่ไม่ทำงานสามารถทำได้โดยการตรวจสอบการเชื่อมต่อฮาร์ดไดร์ภายนอกที่ถูกต้อง, การอัปเดตไดร์เวอร์ล่าสุด, และการตรวจสอบการเชื่อมต่อฮาร์ดไดร์ที่ถูกผูกติดตั้งอย่างถูกต้อง. เราแนะนำให้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาและเรียนรู้วิธีการแก้ไขเบื้องต้นเพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาด้วยตนเองได้ในอนาคต. อย่างไรก็ตามหากปัญหายังคงอยู่หรือคุณต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม อย่าลังเลที่จะติดต่อเรา เรายินดีที่จะช่วยเสมอ
เครื่องมือและวัสดุที่จำเป็น
[content-egg-block modules=AmazonNoApi template=offers_list groups=”Materials”]
เคล็ดลับและเทคนิค
วิธีแก้ปัญหาเมื่อเสียบฮาร์ดดิสก์ภายนอกแล้วไม่สามารถใช้งานได้ คอมพิวเตอร์ไม่รู้จักตัวขับฮาร์ดดิสก์ และไม่สามารถเปิดไฟล์ได้
[content-egg module=Youtube template=responsive_embed hide=title,description]
วิธีการใช้งานหน้าที่ของฮาร์ดดิสก์ภายนอก
- เชื่อมต่อฮาร์ดไดร์ภายนอกกับคอมพิวเตอร์โดยใช้สาย USB หรือสาย Thunderbolt ที่มีอยู่ในชุดของฮาร์ดไดร์ภายนอก
- เมื่อเชื่อมต่อแล้ว คอมพิวเตอร์จะตรวจสอบและติดตั้งไดร์เวอร์ที่จำเป็นสำหรับฮาร์ดไดร์ภายนอก กรุณารอสักครู่ให้คอมพิวเตอร์เตรียมพร้อม
- หลังจากนั้น คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลบนฮาร์ดไดร์ภายนอกได้ที่คอมพิวเตอร์เหมือนเป็นฮาร์ดไดร์ภายใน คุณสามารถคัดลอกไฟล์ไปยังฮาร์ดไดร์ภายนอกหรือจัดเก็บไฟล์จากฮาร์ดไดร์ภายนอกไปยังคอมพิวเตอร์ได้ตามต้องการ
- เมื่อใช้งานเสร็จสิ้น อย่าลืมปิดการใช้งานและถอดสายเชื่อมต่อออกจากคอมพิวเตอร์อย่างปลอดภัย
- หวังว่ารายการนี้จะช่วยให้คุณสามารถใช้ “ฮาร์ดไดร์ภายนอก” ได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฮาร์ดไดร์ภายนอก
ฮาร์ดดิสก์ภายนอกสามารถใช้เป็นสำรองข้อมูลได้หรือไม่?
ใช่ ฮาร์ดดิสก์ภายนอกสามารถใช้เป็นสำรองข้อมูลได้ โดยคุณสามารถเก็บข้อมูลสำรองจากคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ลงในฮาร์ดดิสก์ภายนอกเพื่อรักษาข้อมูลไว้ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เช่น คอมพิวเตอร์เสียหรือข้อมูลสูญหายไป การใช้ฮาร์ดดิสก์ภายนอกเป็นสำรองข้อมูลยังช่วยให้คุณสามารถเอาข้อมูลมาใช้ได้ง่าย ๆ และเร็วกว่าการดึงข้อมูลจากบริการออนไลน์ อีกทั้งยังเป็นวิธีการรักษาข้อมูลสำรองที่มีความปลอดภัยสูงกว่าการใช้บริการออนไลน์